"Piaggio" คือบริษัทผู้ผลิตและจัดหน่ายสกู๊ตเตอร์ "เวสป้า"ที่ทั้งโลกรู้จัก หลายคนเป็นแฟนคลับแบรนด์นี้มานาน หลายคนก็มีในครอบครองหลายคัน แต่คาดว่า น้อยคนที่จะรู้จักหรือเคยไป "Piaggio Museum" ซึ่งเก็บรวบรวมรถจักรยานยนต์ที่ Piaggio ได้ดำเนินการออกแบบและผลิตมาตั้งแต่ปี 1943
Piaggio Museum ตั้งอยู่ที่ Pontedera,Pisa ประเทศอิตาลี โดยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2000 ในแผนกเครื่องมือของโรงงาน Piaggio ใน Pontedera ซึ่งที่นี่เป็นฐานการผลิตเดิมของ Piaggio และมีโมเดลดั้งเดิมสภาพดีเก็บรักษาไว้มากมาย ด้วยมุ่งหวังให้ที่นี่ได้เก็บรักษาและแสดง"มรดกทางประวัติศาสตร์"ของบริษัทยานยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลีและของโลกไว้
หลังจากเปิดมานานกว่าสิบปี และมีผู้เข้าเยี่ยมชมกว่า 7 แสนคน ในปี 2018 ทาง Piaggio Museum ก็ได้ทำการปรับปรุงพื้นที่จัดแสดงกว่า 5 พันตารางเมตรใหม่ทั้งหมด โดยมีรถจัดแสดงกว่า 250 โมเดล และปัจจุบัน ที่นี่ก็เป็นพิพิธภัณฑ์สองล้อ
ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ซึ่งไม่เพียงนำเสนอโมเดลที่ทาง Piaggio เคยผลิตมาเท่านั้น
แต่มันยังบอกเล่าประวัติศาสตร์มากมาย ตลอดจนพัฒนาการทางอุตสาหกรรม
และสังคมของอิตาลีและยุโรปในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาด้วย เนื่องจากกิจการของ Piaggio นั้น ไม่ได้มีแค่สกู๊ตเตอร์ส่วนบุคคล แต่ยังรวมไปถึงการขนส่งทั้งเรือ รถไฟ เครื่องบิน ฯลฯ
ดังที่แฟนคลับหลายคนคงรู้ดีว่า Piaggio ไม่ได้มีแค่แบรนด์ Vespa เท่านั้น แต่ยังเป็นเจ้าของแบรนด์สองล้ออื่นๆ อย่าง Aprillia ,Gilera ,Moto Guzzi ,Piaggio, Piaggio Commercial, Ape , Scarabeo และ Derbi ด้วย ดังนั้น ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จึงเต็มไปด้วยความหลากหลายของประวัติศาสตร์ยานยนต์ โดยมีเวสป้าเป็นแกนกลาง
เริ่มต้นกันที่แบรนด์ที่ทุกคนรู้จักดี และเป็นเป้าหมายหลักของการเยี่ยมชมอย่าง Vespa ซึ่งมีโมเดลตั้งแต่รุ่นดั้งเดิมจนถึงรุ่นปัจจุบัน ดังเช่น โมเดล MP5 หรือ "Paperino" ซึ่งออกแบบและผลิตราวปี 1943-1944 (หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่นาน) มันคือต้นแบบของ "เวสป้าแฮนด์แป๊บ"ที่คนเล่นเวสป้าทั้งหลายรู้จักดี และผลิตครั้งแรกเพียงไม่กี่คัน หรือโมเดล MP6 ที่ออกมาในปี 1945 ซึ่งเริ่มสร้างชื่อเสียงให้กับเวสป้า จากนั้นอีกหลายทศวรรษที่เวสป้าได้ออกโมเดลใหม่มากกว่า 140 รุ่น ก็ได้นำมาจัดแสดงอยู่ที่นี่ทั้งหมด
หลายรุ่นมีชื่อเสียงและเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลก เช่น Vespa 125 cc ปี 1951 ซึ่งเป็นรุ่นที่ Audrey Hepburn และ Gregory Peck ใช้ในภาพยนตร์เรื่อง Roman Holiday, Vespa U (มาจาก Utilitaria หรือ รถประหยัด) ปี 1953 ซึ่งสร้างมาเพียง 7 พันคัน, Vespa GS 150 cc. ปี 1955 "แกรนทัวริสโม" (ประสิทธิภาพสูงสำหรับเดินทางไกล) รุ่นแรกของเวสป้า ฯลฯ
นอกจากเวสป้าที่ผลิตเพื่อจำหน่ายโดยทั่วไปแล้ว ยังมีเวสป้ารุ่นพิเศษอีกหลายโมเดล
ที่คุณจะไม่มีทางเห็นได้จากที่อื่นใดนอกจากที่นี่ อาทิ Vespa PX "gigante"
ขนาดยักษ์ความสูง 4 เมตร สร้างด้วยไฟเบอร์กลาสและเคลือบเงาสีแดง ,เวสป้า T.A.P.(1956) ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในกองทัพสำหรับการเคลื่อนที่เร็ว สามารถส่งลงสู่พื้นด้วยร่มชูชีพและติดปืนใหญ่ขนาด75 mm. , Vespa Alpha (1967) ซึ่งผลิตขึ้นเพื่อให้ในภาพยนตร์ "Dick Smart,Agent 2007" ซึ่งสามารถวิ่งไปถนน บินได้แบบเฮลิคอปเตอร์ และขับเคลื่อนในน้ำเหมือนเรือดำน้ำ , Vespa PX125 Mino Trafeli(Vespa Mitologica ) ผลงานการสร้างสรรค์ของศิลปิน Mino Trafeli
ซึ่งเป็นเวสป้ายาวกว่า 8 ฟุตและมีกระบังลมที่เป็นสแตนเลสวาววับสูง 2 เมตรกว่า
หรือ รถยนต์ขนาด 400 cc. ของเวสป้า ซึ่งผลิตในปี 1957 ก่อนการมาของรถในตำนานอย่าง Fiat 500 ฯลฯ
นอกจากเวสป้าแล้ว ยังมีแบรนด์ระดับตำนานที่น่าไปชม อาทิ Moto Guzzi Galletto 175 ซึ่งมีลักษณะผสมระหว่างสกู๊ตเตอร์และมอเตอร์ไซค์ ดีไซน์แปลกตา , Moto Guzzi 8 Cylinder GP500 (1957) ซึ่งเป็นรถแข่งที่ทำความเร็วได้สูงถึง 257 กม./ชม. , APE TM703 Eurasia Expedition รถยนต์ 3 ล้อขนาดเล็ก อเนกประสงค์ ซึ่งเคยสร้างประวัติศาสตร์เดินทาง 25,000 กม. เมื่อปี 1998 มาแล้ว , PSI RC 40 Stella Engine (1936) เครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินที่เวสป้าเคยผลิต ซึ่งโมเดลที่ 7 ให้แรงม้า 370 hp แต่เมื่อพัฒนาถึงโมเดลที่ 22 ให้แรงม้าสูงถึง 1,500 hp ฯลฯ
นอกเหนือจากการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์ต่างๆ แล้ว Piaggio Museum ยังอุทิศพื้นที่ 340 ตารางเมตรให้กับนิทรรศการชั่วคราว ซึ่งจัดแสดงผลงานด้านศิลปะ เทคโนโลยี และแฟชั่น โดยมีผลงานจากศิลปินมากมายแวะเวียนมา อาทิ เวสป้าเพ้นท์สีฝีมือ Dali งานศิลปะจาก Picasso ,Burri, Nomellini, Viani, Pellizza da Volpedo, Fattori, Modigliani, Carrà, Signorini, Soffici, Spreafico, Nespolo และศิลปินสมัยใหม่และร่วมสมัยอีกมากมาย และถ้าใครต้องการข้อมูลเอกสารและภาพถ่าย ที่นี่ก็ยังมีส่วนของ Archive ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์อันยาวนานของ Piaggio ไว้อีกด้วย
Piaggio Museum มีค่าเข้าชมคนละ 10 ยูโร(ประมาณ 400 บาท) ใครเป็นแฟนเวสป้า หรือรักในประวัติศาสตร์ยานยนตร์ เชื่อว่า ถ้าได้ไปที่นี่ เวลาเที่ยวชมเพียงแค่วันเดียวคงไม่เพียงพอ ไปลองชมแบบ Virtual Tour ก่อนได้ที่ https://www.museopiaggio.it/en หมดโควิทเมื่อไร ค่อยตามไปดูของจริง
**********